วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เอสซีที เกาะกระแสราคาน้ำมันแพงรุกขยายธุรกิจใหม่

เอสซีที เกาะกระแสราคาน้ำมันแพงรุกขยายธุรกิจใหม่ จำหน่ายสินค้าเกี่ยวข้องพลังงานทางเลือก ทั้งระบบผลิตพลังงานลม-แสงแดด และผลิตน้ำมันจากถ่านหิน
นายกลินท์ สารสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ค้าสากลซิเมนต์ไทย จำกัด หรือ เอสซีที เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทมีแผนจะขยายธุรกิจจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทางเลือก ซึ่งจะมีทั้งที่บริษัทดำเนินการเอง และร่วมลงทุนกับต่างประเทศ โดยบริษัทเตรียมจะเปิดตัวสินค้าและทำตลาดในอีกสองเดือนข้างหน้า ซึ่งจะเน้นตลาดในประเทศเป็นหลัก เพราะสินค้าจะมีความหลากหลาย เช่น พลังงานลม แสงแดด และนำของเหลือใช้มาผลิตเชื้อเพลิง รวมถึงนำถ่านหินมาผลิตน้ำมันเพื่อทดแทนน้ำมันเตา โดยบริษัทจะดำเนินการจดลิขสิทธิ์สินค้าเหล่านี้
"ที่เราสนใจเป็นผู้จำหน่ายเทคโนโลยีและสินค้าพลังงานทางเลือกนั้น เนื่องจากราคาน้ำมันผันผวนต่อเนื่อง แม้จะลดลงช่วงปลายปี 2551 แต่ปีนี้ก็กลับมาสูงอีกครั้ง ขณะที่พลังงานทางเลือกมีศักยภาพและคุ้มค่าการลงทุน ณ ระดับราคาน้ำมันไม่ต่ำกว่า 70 ดอลลาร์เท่านั้น ขณะนี้สูงกว่านั้นแล้ว "
ส่วนธุรกิจนำเข้าถ่านหินเพื่อเป็นเชื้อเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรมนั้น ก็เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่ขยายตัวตามราคาน้ำมัน ขณะที่แหล่งถ่านหินในประเทศเริ่มหมดลง ปีนี้คาดว่าปริมาณจำหน่ายถ่านหินของบริษัทจะอยู่ที่ 2 ล้านตันเศษ สูงกว่าปี 2551 ที่ 1.8 ล้านตัน สาเหตุที่การใช้ถ่านหินในประเทศขยายตัวขึ้น เพราะโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งปรับระบบผลิต จากการใช้หม้อต้ม (Boiler) มาใช้ถ่านหิน และบางส่วนที่เคยหยุดใช้ถ่านหิน เพราะน้ำมันราคาถูกก็กลับมาใช้อีกครั้ง
นายกลินท์ กล่าวอีกว่า อีกธุรกิจหนึ่งที่บริษัทจะเปิดตัวในอีกสองเดือนข้างหน้าเช่นกัน คือ ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจและขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ โดยจะเน้นตลาดในอาเซียนเป็นหลัก รวมทั้งสินค้าประเภทอาหาร ก็เป็นสินค้าอีกชนิดหนึ่งที่บริษัทจะให้ความสำคัญมากขึ้นเช่นกัน นอกจากนั้นบริษัทได้ปรับตัวด้วยการหันไปหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพแทนตลาดหลักเดิมที่สหรัฐ และยุโรป

ชาติก่อน